💊 Creatine HCL vs Monohydrate – เปรียบเทียบ creatine ตัวเด็ด! แบบไหนปังกว่ากัน?

ถ้าคุณเป็นสายเวท สายเพาะกาย หรือแม้แต่นักกีฬาที่อยากเร่งพลังและฟื้นตัวไว “Creatine” คือหนึ่งในอาหารเสริมพื้นฐานที่ควรมีติดตัวไว้ แต่คำถามที่ถูกถามบ่อยที่สุดคือ...

"ควรเลือก Creatine HCL หรือ Monohydrate ตัวไหนดีกว่ากัน?"วันนี้เรามีคำตอบแบบเจาะลึก พร้อมอิงข้อมูลวิจัยมาฝากกันครับ!

🧪 Creatine Monohydrate – รุ่นคลาสสิกของ creatine ที่ยังทรงพลังไม่เสื่อมคลาย

Creatine Monohydrate คือรูปแบบครีเอทีนที่ได้รับการวิจัยมากที่สุดในโลก มีผลงานทางวิทยาศาสตร์สนับสนุนมากกว่า 1,000 ฉบับ ว่าสามารถเพิ่มพลังในการฝึก (Strength & Power Output), เพิ่มปริมาณกล้ามเนื้อ (Lean Mass) และช่วยฟื้นตัวได้จริง

ข้อดีหลักๆ ของ Monohydrate ได้แก่:

• ราคาเข้าถึงง่าย

• ปลอดภัยในระยะยาว (อ้างอิง: [Kreider et al., 2017 – Journal of the International Society of Sports Nutrition])

• เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นทุกระดับ

ข้อเสีย อาจเจออาการบวมน้ำเล็กน้อย หรือแน่นท้องในบางราย โดยเฉพาะถ้าทานช่วงท้องว่างหรือไม่ดื่มน้ำพอ

⚡ Creatine HCL – ตัวใหม่ ดูดซึมไว ไม่ต้องโหลด

Creatine Hydrochloride หรือ HCL เป็นสูตรใหม่ที่เพิ่มความสามารถในการละลายน้ำและดูดซึมเร็วขึ้น โดยมีจุดเด่นคือ “ไม่ต้องผ่าน loading phase” แบบ Monohydrate และใช้ในปริมาณน้อยเพียง 1.5 กรัมก็เพียงพอ

งานวิจัยจาก [Jagim et al., 2012 – Journal of Strength and Conditioning Research] พบว่า Creatine HCL มีการละลายที่ดีกว่า Monohydrate ถึง 38 เท่าในน้ำ → ลดโอกาสเกิดอาการแน่นท้องหรือบวม

ข้อดีของ HCL:

• ดูดซึมดี → ใช้ปริมาณน้อย

• เหมาะกับคนที่ท้องอ่อนไหว

• ไม่ต้องโหลด

ข้อจำกัด: ราคาแพงกว่า และยังมีงานวิจัยน้อยกว่ารุ่น Monohydrate

🔍 สรุป: ตัวไหน “ปัง” กว่ากัน?

💬 บทสรุปของสายกล้าม

ถ้าคุณเพิ่งเริ่มต้น หรืออยากได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่า → Monohydrate คือทางเลือกที่ไม่ผิดหวังแต่ถ้าคุณต้องการตัวเสริมที่ดูดซึมเร็ว ไม่แน่นท้อง และพร้อมจ่ายเพื่อประสบการณ์ระดับพรีเมียม → HCL คือตัวเลือกที่คุณต้องลอง

📌 TIP: นักกีฬาหลายคนเลือกใช้ Monohydrate ช่วง Bulk และ HCL ช่วง Cut เพื่อควบคุมอาการบวมน้ำให้ดีขึ้น